school in school 3
ยินดีต้อนรับสู่... school in school3 web board ครับ


Join the forum, it's quick and easy

school in school 3
ยินดีต้อนรับสู่... school in school3 web board ครับ
school in school 3
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ

Go down

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Empty ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ

ตั้งหัวข้อ  ปาย Wed Oct 07, 2009 3:11 pm

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ 20090326_90f5ada9717e21d847efcLTG6ovPZy8O

Vai.เกิดเมื่อ 6 มิถุนายน 1960 ณ.Long Island, New York เริ่มเรียนกีต้าร์อย่างจริงจังเมื่ออายุ 13 กับ Joe Satriani จากนั้นไปศึกษาด้านดนตรีที่ Berklee School ใน Boston และย้ายมาอยู่ที่ L A ในปี 1979 เพื่อเป็นนักดนตรีในวงดนตรีของ Frank Zappa ออกโซโลอัลบั้มแรก Flex-able [1984] และในปี 1985เข้าไป แทนที่ Yngwie Malsteenใน AlcaTrazz ซึ่ง มี Graham Bonnet เป็นนักร้องนำ( อดีต นักร้องนำวง RainBow) ออกอัลบั้ม Disturbing the peace [1985] ปี ต่อมาในปี1986 ย้ายมาอยู่กับ David Lee Roth Band ออกอัลบั้ม 2 มาชุดคือ Eat 'em and Smile [1986] และ Skyscraper [1988] หลังจากนั้นในปี 1989 มาอยู่กับวง White Snake ออกอัลบั้ม Slip of the Tongue แม้ว่าจะมีชื่อมือกีต้าร์ Adrian Vandenberg ร่วมด้วย (และเป็นคนร่วมแต่งเพลงกับ David Coverdale ) แต่ VAI เป็นคนเล่นกีต้าร์ทั้งหมด เนื่องจาก Adrian ประสบอุบัติเหตุ ต่อมาในปี 1990ออกอัลบั้มแห่งประวัติศาสตร์ของโลกกีตาร์ในยุค'90ที่มีชื่อว่า Passion and Warfare ซึ่งอัลบั้มนี้เราถือได้ว่า...เป็นการแจ้งเกิดจุติให้ใครหลายๆคนได้รู้จัก เขาในฐานะเทพเจ้ากีตาร์ตนหนึ่ง และหลังจากนั้นอีก 3 ปีคือในปี 1993เขาก็ได้ออกอัลบั้มที่ชื่อว่า Sex and Religien และก็มีตามออกมาอยู่เรื่อยๆสำหรับผลงานของ Steve Vai

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo

จากปากคำของสตีฟเอง เขาเล่าว่า เค้าเองต้องการที่จะออกแบบ JEM อีกรุ่นหนึ่งที่มีความคลาสสิค จึงมีความคิดที่ว่า จะให้ตัวกีต้าร์เป็นสีขาว และอุปกรณ์เป็นสีทอง ดังนั้นทางไอบาเนสจึงทำขึ้นและส่งกีต้าร์มาให้ลอง 4 ตัว เค้าจึงเริ่มลองเล่นทีละตัวเพื่อที่จะหาอาวุธคู่กายที่เหมาะมือ


ขณะเดียวกันนั้น สตีฟก็ได้ร่วมกับดิมาซิโอ(ปิคอัพยี่ห้อดัง)ในการออกแบบปิคอัพรุ่นใหม่ ซึ่งบังเอิญที่จะมีปิคอัพให้สตีฟได้ลองอีก 4 รุ่นเช่นกัน โดยได้ตั้งชื่อรุ่นต่างๆตามชนิดของเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน อันได้แก่ Flathead Knucklehead Panhead และ Evolution ซึ่งตัวที่เค้าชอบนั้น แน่นอนคือ Evolution


เหตุผลที่สตีฟชอบนั้น เป็นเพราะ อีโวมีกำลังส่งสูง เสียงเนียน เสียงสูงไม่บาดหู และเสียงต่ำที่แน่น ดังนั้นเค้าจึงติดตั้งปิคอัพตัวนี้ลงในกีต้าร์ซึ่งเค้าตั้งชื่อว่า Evo และอีกตัวชื่อว่า Flo เพื่อที่จะเป็นการจำแนกกีต้าร์แต่ละตัว(คงเพราะหน้าตามันเหมือนกัน)


สตีฟได้เริ่มใช้อีโวก่อนหน้าที่จะมีการอัดเสียงอัลบั้ม Sex and Religion ซึ่งก็ได้กลายมาเป็นกีต้าร์คู่ชีพของสตีฟตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา บางครั้งสตีฟหันไปใช้ Flo เนื่องจากมันมีปิคอัพ sustainer (ปิคอัพที่ให้เสียงค้างยาวๆ) ของ Fernandez และปัจจุบัน สตีฟมักจะใช้ Flo มากกว่าเพราะอีโวโทรมมาก กำลังจะพัง จึงอยากจะถนอมเอาไว้


มาดูกันใกล้ๆนะครับว่าโทรมขนาดไหน อันนี้ด้านหน้า

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo1

ด้านล่างตรงขอบ

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo2

ดูรอยร้าวตรงคอ น่ากลัวจริงๆ

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo3

เค้าเล่าว่า ทางไอบาเนสได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะซ่อมรอยร้าวนี้ แต่ก็ไม่ประสบผล แถมยังคงร้าวไปเรื่อยๆ(แก้วที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแตก)


อันนี้เป็นลายเซ็นต์ที่ได้จากเลสพอล ตอนสตีฟไปเล่นให้ฟังในการวันเกิดในปี 1995 และเซ็นซ้ำในปี 1998 คราวนี้เอาสติกเกอร์แปะทับไว้ซะเลย

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo4

อันนี้อุปกรณ์กำจัดเสียงรบกวนไฮเทค กระดาษทิชชู่อัดเข้าไป ปรากฏว่าเสียงดีมาก(อารมณ์เดียวกับผ้าผวยในกลอง)

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo5

แกะออกมาดูแล้วเป็นแบบนี้(มี Tremsetter ด้วย)

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo6

คอก็งั้นๆ ขอข้ามไปหย่องดีกว่า อันที่สตีฟเล่นปัจจุบันจะเป็นสีดำ ซึ่งผิดกับเจมขาวทั่วไป(สีทอง) ดูไม่หรูเลย

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo7

ย้อนกลับมาดูอุปกรณ์เก็บเสียงหน่อย ยังกะผ้าอนามัย ไอเดียนี้ใครจะไปใช้ก็ไม่ห้ามนะครับ ลดเสียงเอี๊อดอ๊าดสปริงได้ดีทีเดียว

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo8

มาดูปิคอัพกันดีกว่า มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งขณะที่สตีฟออกทัวร์ เค้ารู้สึกว่าเสียงมันแปลกๆจึงบอกกับกีต้าร์เทค ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น เสียงได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ถามไถ่บเทคได้ความว่าเค้าได้เปลี่ยนปิคอัพตัวเดิมที่คอออกแล้วใส่ตัวใหม่เข้าไปแทน สตีฟโกรธแบบควันออกหูเพราะแค่บอกให้ดู แต่ไม่ได้บอกให้เปลี่ยน จึงให้เทคเปลี่ยนกลับ


ปรากฏว่า อีตาเทคโยนปิคอัพเก่าทิ้งขยะไปแล้ว ดังนั้นทีมงานทั้งหมดซึ่งกำลังเดินทางอยู่บนรถทัวร์ต้องกลับไปที่สถานที่และระดมกำลังค้นถังขยะทุกใบ.......


โชคดีครับที่ค้นเจอ สุดท้ายต้องเอากลับมาใส่ใหม่ เฮ้อ เกือบตกงานแล้วซะแล้ว

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo9

เปลี่ยนปุ่มวอลลุ่มใหม่เพื่อหมุนได้ถนัดมากขึ้น


สำหรับสก๊อตเทปที่แปะไว้นั้น(เขียนว่า KONX) เป็นเพราะสตีฟดีดแรงจนบางครั้งสาย 1 เข้าไปติดข้างใต้ปิคอัพ จึงติดไว้มันจะได้ไม่เข้าไปข้างใต้

ประวัติของ steve vai และกีตาร์ของเขาครับ Evo10

สุดท้าย สตีฟกล่าวถึงอ๊โวว่า เป็นกีต้าร์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขามาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ถึงแม้รู้ว่าวันหนึ่งอีโวต้องถูกปลดระวางไปตามกาลเวลา แต่วันใดก็ตามที่เค้าต้องจากอีโวไป วันนั้นหัวใจเขาคงสลาย


แล้วคุณล่ะครับ ผูกพันกับกีต้าร์คู่ชีพของคุณขนาดไหน.

Credit : www.bloggang.com และ www.mornor.com
ปาย
ปาย
Field Marshal
Field Marshal

จำนวนข้อความ : 896
Join date : 02/05/2009
: 28

https://school-in-school3.thai-forum.net

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ